คำถามยอดฮิตในการเรียนและการสอนเปียโนสำหรับเด็ก

เด็กๆควรเริ่มเรียนเปียโนตั้งแต่เมื่อไหร่?

การเรียนเปียโนสำหรับเด็กนั้น ความจริงแล้วอยู่ที่ตัวเด็กนะคะว่าเริ่มมีสมาธิและอยู่นิ่งๆ กับสิ่งที่สนใจได้ซัก 15 นาทีถึงครึ่งชั่วโมงตั้งแต่เมื่อไหร่ และที่สำคัญคือ น้องจะต้องรู้จักตัวเลข และนับจำนวนได้ อย่างน้อยที่สุดเลข 1-5 ควรจะจำและนับได้แม่นแล้วค่ะ เพราะในการสอนเปียโนสำหรับเด็กนั้น ตอนขั้นต้นจะใช้ตัวเลขและการนับเลขเป็นสำคัญค่ะ

โดยปกติแล้วน้องๆส่วนใหญ่จะเริ่มมีสมาธิสามารถเรียนเปียโนได้ตั้งแต่ประมาณ 4-5 ขวบค่ะ แต่ก็จะมีน้องบางคนเหมือนกันนะคะ ที่สามารถเริ่มมาเรียนก่อนหรือหลังจากนั้นนิดหน่อย ตรงนี้ก็ต้องดูเป็นรายบุคคลไปค่ะ

สำหรับน้องๆคนไหนที่สามารถนับจำนวน และรู้จักตัวเลข 1-5 แล้ว วิธีการง่ายๆสำหรับคุณพ่อคุณแม่ก่อนจะพามาทดลองเรียน คือ ลองสังเกตดูว่า น้องสามารถอยู่กับของบางอย่าง หรือกิจกรรมบางประเภทที่ชอบ ได้นานแค่ไหน เช่น วาดรูป ระบายสี ต่อเลโก้ พับกระดาษ อ่านหนังสือ ได้ประมาณ 15 นาทีถึงครึ่งชั่วโมง ก็สามารถพามาได้เลยค่ะ แต่ไม่นับรวมการนั่งเล่นวีดีโอเกมส์ หรือดูการ์ตูนนานๆหน้าทีวีนะคะ เพราะที่เด็กๆดูทีวีได้ครั้งละนานๆนั้น เกิดจากภาพและเสียงบนจอที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆทำให้เขาสนใจ ไม่ได้เกิดจากสมาธิที่ต้องสร้างขึ้นเองเหมือนการทำกิจกรรมอื่นๆค่ะ

เรียนเปียโนแค่ครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมงต่อสัปดาห์เพียงพอจริงหรือ?

ก่อนอื่นต้องขอทำความเข้าใจกับคุณพ่อคุณแม่ก่อนว่าการเรียนเปียโนสำหรับเด็กๆนั้น ขึ้นอยู่กับน้องๆเลยค่ะว่าสามารถเรียนได้มากน้อยแค่ไหน

อย่างที่บอกว่าเด็กบางคน อาจจะสามารถมีสมาธิเรียนได้ถึงหนึ่งชั่วโมง ในขณะที่เด็กอีกคนอายุเท่ากันก็จริง แต่สามารถอยู่นิ่งๆได้แค่ครึ่งชั่วโมงก็เก่งแล้ว คอร์สเรียนของน้องทั้งสองคนนี้ก็คงจะออกมาเหมือนกันไม่ได้ค่ะ เพราะถ้าให้เด็กที่มีสมาธิสั้น มานั่งเล่นเปียโนนานๆ น้องคงจะเบื่อ พาลจะเกลียดดนตรีไม่ยอมมาเรียนไปซะอีก

ดังนั้น ถ้าถามว่าเรียนแค่ครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมงต่อครั้งพอไหม? ตอบว่าเพียงพอค่ะ คำถามต่อไปที่จะตามมาก็คือ แล้วแค่หนึ่งครั้งต่อสัปดาห์พอหรือไม่? ก็ต้องขอตอบว่าพออีกเช่นกัน เพราะในทุกๆครั้งที่มาเรียน น้องๆจะได้มาเล่น มาเรียนรู้เรื่องใหม่ ซึ่งการมาเรียนดนตรี จะไม่เกิดประโยชน์เท่าที่ควร หากขาดการฝึกซ้อม เวลาอีก 6 วันที่เหลือก่อนจะมาเจอคุณครูอีกครั้ง เด็กๆจะต้องนำสิ่งที่เรียนไปครั้งที่แล้วไปฝึกซ้อมที่บ้าน เพื่อที่ครั้งต่อไป จะได้สามารถเล่นเพลงใหม่ และเรียนรู้เรื่องใหม่ๆที่ซับซ้อนขึ้นได้ค่ะ

ไม่มีเปียโนที่บ้านจะพาลูกมาเรียนเปียโนได้ไหม?

ได้ค่ะ แต่แนะนำว่าหลังจากที่มาเรียนแล้ว อย่างน้อยควรมีคีย์บอร์ดไฟฟ้าซักตัวนะคะ เป็นคีย์บอร์ดแบบพกพาที่ขายกันตามห้างสรรพสินค้าราคาพันกว่าบาทก็ได้ค่ะ

แม้ว่าน้ำหนักของคีย์บนคีย์บอร์ดไฟฟ้าจะเบากว่าเปียโนมาก แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรไว้ให้เด็กๆซ้อมค่ะ แต่รับรองว่าค่ะว่า ซื้อมาไม่เสียเงินเปล่าแน่นอน เพราะคีย์บอร์ดไฟฟ้าสำหรับเด็กๆนั้นมีฟังค์ชันสนุกๆให้เลือกเล่นเยอะมาก มีไว้ซักตัวที่บ้านรับรองว่าเด็กๆไม่หายเห่อของเล่นชิ้นนี้ง่ายๆแน่นอนค่ะ ^^

การซ้อมสำคัญแค่ไหน?

การเรียนเปียโนและการซ้อมเปียโนนั้นเป็นของคู่กัน หากอยากเรียน แต่ไม่ยอมซ้อม กระบวนการในการสอนเปียโนของคุณครูก็จะเป็นไปได้ช้าค่ะ

ในการเรียนเปียโนสำหรับเด็กๆนั้น ค่อนข้างเป็นขั้นเป็นตอน เด็กๆจะต้องเล่นเพลงหรือแบบฝึกหัดต่างๆได้คล่องก่อน แล้วทักษะที่เกิดจากการเล่นนั้น จึงจะพัฒนาไปเป็นเทคนิคพื้นฐานด้านเปียโนของเด็กๆค่ะ ดังนั้นหากน้องๆไม่ซ้อมสิ่งที่คุณครูให้เป็นการบ้านมา ถึงจะผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ คุณครูก็ไม่รู้จะสอนอะไรต่อให้ได้นะคะ ก็ต้องสอนซ้ำไปอีกครั้งจนกว่าน้องจะทำได้ เพราะ หากยังทำแบบฝึกหัดแรกไม่ได้ ก็คงจะให้ข้ามไปทำแบบฝึกหัดชุดต่อไปไม่ได้แน่นอนค่ะ

วินัยในการซ้อมนั้นจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญ ว่าการเรียนเปียโนของน้องจะไปได้ช้า-เร็ว และสัมฤทธิ์ผลแค่ไหนนะคะ แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ไม่ได้หมายความว่าการบ้านจะมียากๆมากมาย หรือซับซ้อนนะคะ โดยปกติก็จะเป็นสิ่งที่สอนไปในชั่วโมงเรียน แล้วคุณครูให้กลับไปเป็นการบ้านเพื่อฝึกซ้อมให้คล่องค่ะ ดังนั้นหากเป็นไปได้ ในหนึ่งสัปดาห์ คุณพ่อคุณแม่ก็ควรจะหลอกล่อให้คุณลูกมานั่งอยู่หน้าเปียโนหรือคีย์บอร์ดซัก 2-3 วันก็ได้ ครั้งละ 5-10 นาทีก็พอค่ะ

แต่ อย่าไปบังคับเคี่ยวเข็ญเด็กๆมากจนเกินไปนะคะ เพราะเด็กบางคนพอถูกบังคับให้ทำอะไรมากๆ ก็จะเบื่อหน่าย พอไม่มีความสุขแล้ว จะยิ่งไม่อยากเล่น ไม่อยากซ้อมไปกันใหญ่เลยค่ะ เอาเป็นว่า การซ้อมนั้นสำคัญ อย่าให้หย่อนเกินไป แต่ก็ไม่ควรตึงเกินไปเช่นกันนะคะ